First Story : Austria 5 Ver.Eng

Sights and heritage of Austria. 

Schonbrunn Palace, and Schonbrunn Zoo (Schoenbrunn Palace) Summer Palace awful. 

                   Received by the UNESCO World Heritage Site. Schoenbrunn Palace was the summer palace of the Habsburg's mighty Bayern Munich. Built in the late 17th century by the will of Queen Maria Theresa. Empress of the Roman Empire The palace was intended to be built. Not a spectacular palace of Versailles in Paris. Schoenbrunn Schoenbrunn Palace Is very beautiful A 3-storey building with two wings on the outside of the house painted with yellow gold. Also known as yellow Maria Theresa and the palace has a total of 1,441 rooms are open to visitors, but only 40 rooms, including rooms in the letters. A ceremonial A district court of his bedchamber a gallery room and ate all his clothes, rooms are furnished and decorated with exquisite fineness varies. With the magnificent marble gold stripes on it real good around the palace were beautiful as well. After the tree planting flowers beautifully arranged by a tree. And a statue of the Greek mythology and Roman art, many inserted in the trees the movie, creating a very pleasant one. 

Hof, Munich Palace (Hofburg Palace), the magnificent Winter Palace. 

                   Originally the palace was the residence of the Governor and the Habsburg Emperor in Augsburg until his first since his last for more than 600 years, the palace has been expanded and enhanced scalability and so on. To grow large There are many buildings and This turned into a museum displaying treasures of the royal family. Show appliances wearable The Emperor's Jewelry The clothes are Precious stones and gold, more rare.


Square Stephan (Stephansplatz) 

                   It is considered the center of Vienna. Many people come to stroll the square of this. Because here is the location. Basilica of St. Stephen (St. Stephen) and is considered a sacred symbol of the city of Vienna. The most important is the Church of Austria. Built in the year.. 1137 dedicated to St. Stephen. The church was built by European Gothic architecture of delicate beauty. The church is large, tall with a pointed tip on the top of the most prominent churches of the South Tower at a height of 136.7 m. Spent more than 75 years, if stood on this tower to watch. by the city of Vienna


Carn Road Gartner. (Karntnerstrasse)

                   This road is a road linking the central ring road ring Telstra Jose Stephan Square. The main shopping streets of Vienna. A mall shops lined both sides of the road. Available to buy such clothes popular brands. Faceted crystal glass Souvenirs It also has restaurants, coffee shops, ice cream and Austrian cuisine.


Vienna City Hall (Rathaus or Town Hall). 

                   The pavilion is a very beautiful building, designed by Friedrich von Schmidt from the year 1872 to the year.'s 1883 Gothic-style building art. Observed in the high spiers called Rathausmann a symbol of Vienna. Front of City Hall will be called Rathauspark patio area is often used as a venue. And activities Fundraising is always a The people are very interested.


House music (House of Music). 

                    House music, this is a story about music education. With the knowledge of sounds ranging from basic to advanced. And the house is a museum of music was the music of these world-renowned artists such as Wolfgang Amadeus Mozart, Ludwigvan Beethoven, Franz Schubert, Johann Strauss, etc., and also has a different tone. Is transmitted through the quaint devices. Whether it's a shower and a hemispherical socket of the globe. I have a model show the baby when the embryo in the mother's womb. Known as an exhibit using modern technology to offer audio and video is very interesting.


West Park Stud Park (Stadtpark). 

                      The Viennese City Park Since the year 1862 by the design professional landscape architect. A large size With an area of ​​over 65,000 square meters, the Viennese popular vacation spot and use it as a workout. The interior garden with trees, large and small. Then there are the statues of world famous musicians, many majors. Like a golden statue of Johann Strauss (Johann Strauss-Denkmal) composers, one of Austria's own immortal song "By the beautiful blue Danube" is emblazoned in the Garden.


Prater amusement park (Prater). 

                         Prater is an amusement park, the largest in Austria. This is a lot of fun to play with, including a haunted house, the carousel, roller coaster. Manchester Roller Casino, etc. A Ferris wheel (Riesenrad) higher than 200 feet, a giant ferris wheel An old pair of Vienna since 1879.

BY SYSP 4/8"36

First Story : Austria 5 Ver.Thai

สถานที่ท่องเที่ยวและมรดกโลกของออสเตรีย

พระราชวังเชินบรุนน์ ( Schoenbrunn Palace ) พระราชวังฤดูร้อนอันยิ่งใหญ่                  ได้รับมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก พระราชวังเชินบรุนน์เป็นพระราชวังฤดูร้อนอันยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก สร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 17 โดยพระประสงค์ของพระนางมาเรียเทเรซ่า จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิโรมัน ที่ตั้งพระทัยว่าจะสร้างพระราชวังแห่งนี้ ให้มีความงดงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ในกรุงปารีส พระราชวังเชินบรุนน์ มีความสวยงามมาก ลักษณะเป็นตึก 3 ชั้น มีปีก 2 ข้าง ด้านนอกของตัววังทาด้วยสีเหลืองทอง หรือที่เรียกกันว่าสีเหลืองมาเรีย เธเรซา และด้านในวังมีห้องต่าง ๆ จำนวนมากถึง 1,441 ห้อง แต่เปิดให้เข้าชมเพียง 40 ห้อง อาทิ ห้องทรงพระอักษร ห้องพระราชพิธี ห้องทรงพระสำราญ ท้องพระโรง ห้องบรรทม ห้องแกลลอรี่ ห้องฉลองพระองค์ ห้องเสวย ทุกห้องล้วนตกแต่งด้วยวัสดุที่มีความวิจิตรประณีตแตกต่างกันไป มีทั้งหินอ่อน ลายทอง ที่ดูแล้วสวยงามอลังการตาดีจริง ส่วนรอบ ๆ พระราชวังก็งดงามไม่แพ้กัน ด้านหลังปลูกต้นไม้ ดอกไม้ อย่างสวยงามตามแบบแผนผังที่จัดวางไว้ และยังมีรูปปั้นศิลปะเกี่ยวกับเทพนิยายกรีกและโรมันอีกมากมายแทรกอยู่ตามต้นไม้ที่ได้ชมแล้วสร้างความรื่นรมย์เป็นอย่างมาก

พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) พระราชวังฤดูหนาวที่งดงาม                   แต่เดิมวังแห่งนี้เป็นที่ประทับและที่ว่าราชการของจักรพรรดิในราชวงศ์ฮับส์บวร์กตั้งแต่พระองค์แรกจนถึงพระองค์สุดท้ายเป็นเวลายาวนานกว่า 600 ปี พระราชวังแห่งนี้มีการต่อเติมเสริมแต่งขยายขนาดไปเรื่อยๆ จนมีขนาดใหญ่โต และมีหลายอาคาร ปัจจุบันนี้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงสมบัติล้ำค่าของราชวงศ์ แสดงเครื่องใช้ เครื่องแต่งตัว เครื่องประดับของจักรพรรดิ มีทั้งเสื้อผ้า เพชรพลอยและทองคำล้ำค่าที่หาชมได้ยากยิ่ง

จัตุรัสสเตฟาน (Stephansplatz)                   ที่นี่ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของกรุงเวียนนา ผู้คนมากมายนิยมมาเดินเที่ยวที่จัตุรัสแห่งนี้ เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของ มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephen) อันศักดิ์สิทธิ์และถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเวียนนา เป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดของออสเตรีย สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1137 เพื่ออุทิศแด่นักบุญสเตเฟน โบสถ์แห่งนี้สร้างตามสถาปัตยกรรมยุโรปแบบโกธิคที่อ่อนช้อยงดงามมาก ตัวโบสถ์มีขนาดใหญ่ ทรงสูง มียอดปลายแหลม ๆ หลายยอด มีส่วนที่โดดเด่นที่สุดของโบสถ์คือหอคอยทางทิศใต้ที่มีความสูงถึง 136.7 ม. ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 75 ปี หากขึ้นมายืนบนหอคอยนี้สามารถชมวิวเมืองเวียนนาได้โดยรอบ ถนนคาร์นท์เนอร์ (Karntnerstrasse)

                  ถนนสายนี้เป็นถนนการค้าใจกลางเมืองที่เชื่อมระหว่างถนนวงแหวนริงสตราเซ่กับจัตุรัสสเตฟาน เป็นถนนชอปปิ้งสายสำคัญของเวียนนา ที่มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ มากมายเรียงรายตลอดสองข้างทางของถนน มีสินค้าให้เลือกซื้อหามากมาย อาทิ เสื้อผ้าแบรนด์ยอดนิยม เครื่องแก้วคริสตัลเจียระไน ของที่ระลึกต่างๆ และยังมีร้านอาหาร ร้านไอศกรีม และร้านกาแฟแบบต้นตำรับออสเตรีย

ศาลาว่าการกรุงเวียนนา (Rathaus หรือ Town Hall)

                  เป็นศาลาว่าการที่สวยงามมากออกแบบโดย Friedrich von Schmidt ก่อสร้างตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1872 ถึง ปี ค.ศ 1883 เป็นอาคารศิลปะสไตล์โกธิก สังเกตได้จากยอดแหลมสูงเด่นที่เรียกว่า  Rathausmann  ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเวียนนา ด้านหน้าของศาลาว่าการจะมีลานกว้างเรียกว่า  Rathauspark  บริเวณลานนี้มักถูกใช้เป็นสถานที่จัดงาน และกิจกรรมต่างๆ หรือออกร้านขายของอยู่เสมอ ซึ่งมีผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

บ้านดนตรี(House of Music)

                   บ้านดนตรีหลังนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับดนตรีให้ศึกษา มีการให้ความรู้เรื่องเสียงตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง และภายในบ้านดนตรีถูกจัดเป็นห้องพิพิธภัณฑ์ทางดนตรีของเหล่าศิลปินชื่อก้องโลก อาทิ Wolfgang Amadeus Mozart, Ludwigvan Beethoven, Franz Schubert, Johann Strauss ฯลฯ และยังมีห้องจำลองเสียงต่างๆ ที่ถูกถ่ายทอดผ่านอุปกรณ์แปลกตา ไม่ว่าจะเป็นรูปฝักบัวอาบน้ำและเบ้าครึ่งวงกลมของลูกโลก แล้วก็มีห้องแสดงการจำลองเสียงทารกเมื่อครั้งยังเป็นตัวอ่อนอยู่ในครรภ์แม่ เรียกว่าเป็นการจัดแสดงโดยใช้วิทยาการสมัยใหม่มานำเสนอทั้งภาพและเสียงได้อย่างน่าสนใจ

สวนสาธารณะสตัดต์ปาร์ก (Stadtpark)

                     เป็นสวนสาธารณะประจำเมืองเวียนนา มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1862 ตามการออกแบบของผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิสถาปัตย์ เป็นสวนขนาดใหญ่ขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว่า 65,000 ตร.ม. ซึ่งชาวเวียนนานิยมมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจและใช้เป็นที่ออกกำลังกายกัน ซึ่งภายในสวนร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ แล้วยังมีรูปปั้นนักดนตรีเอกของโลกที่มีชื่อเสียงมากมาย อย่างเช่นรูปปั้นสีทองอร่ามของ Johann Strauss (Johann Strauss-Denkmal) คีตกวีเอกท่านหนึ่งของออสเตรียเจ้าของบทเพลงอมตะ “By the beautiful blue Danube” ตั้งประดับอยู่ในสวนอย่างสวยงาม

สวนสนุกพราเตอร์ (Prater)

                        พราเตอร์เป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรีย ที่นี่มีเครื่องเล่นมากมายให้ได้เลือกเล่นกันอย่างสนุกสนาน อาทิ บ้านผีสิง ม้าหมุน ลูกกลิ้งถาดรองแก้ว โรลเลอร์โคสเตอร์ คาสิโน ฯลฯ และยังมีชิงช้าสวรรค์ (Riesenrad)  ขนาดยักษ์สูงกว่า 200 ฟุต ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์เก่าแก่ที่อยู่คู่เวียนนามา ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1879

BY SYSP 4/8"36 

First Story : Austria 4 Ver.Eng

System of Austrian Economics 

                  Libertarian socialism is mixed Government has a role in the industry and enterprises such as banking, electric utilities and heavy industry, including oil, chemicals, auto Austria as developed countries. Due to increasing population and is caused by the activities of the government.
Austria's main industries are mining and tourism. Resources are oil, natural gas, iron, zinc, lead by the Alps. Large industries such as steel, which is most advanced in Europe. Tourism Take advantage of the musical and cultural heritage. Is attracting the attention of tourists and the development of agriculture and animal husbandry. Austria increased agricultural production lot. It is a progressive and a lot of research, scientists have been awarded Nobel for up to 13 people and an EU member since 1995 แlac.s. 1999 has changed the currency to the euro.
                        Imports Machinery and parts, glass, silver jewelery, gold jewelery, and chemicals.
                        Exports jewelry Apparel, cosmetics, soaps, skin care products. Cars and rubber products


Cooperation in education 

          Thailand to Austria a joint committee for cooperation in science, technology and art together. The project has been conducted under this mechanism since 2527, both parties have agreed to have a meeting of the Joint Committee. regularly Major projects under this partnership include scientific exchange program between the University Thailand Austria. The PhD scholarships and grants, training and research.
         Also in National Assembly Thailand and Austria, a cooperative network among universities in ASEAN and the European University. (ASEAN-European Academic University Network - ASEA-UNINET), which was established in 2537 founding member of Asia including Thailand, Vietnam and Indonesia. Thailand is the hub of the regional network in Southeast Asia. The results of this operation in such networks. Fostering the exchange of technology resources for help. And technical cooperation effectively and extensively.
          Thailand and Austria in 2547, celebrates 20 years of educational cooperation. By Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn's. CSR has come to visit Austria. Between February 21 - March 25, 2547 to celebrate the occasion, he said.

Culture of Austria 

              The eating Austria has been influenced by many countries and tribes, such as German, Hungarian, Italian sausage, beef stew are heavily influenced by German and Hungarian. Austrian cuisine with a variety of different local location Also Austria is a country that is not on the beach and the area is mostly mountainous. The Austrians took the fish and wildlife cook. Use a knife and fork for eating. Etiquette is an important meal to eat with many people is. After all, sit down and have a meal before you start saying that the site (Mahlzeit), which means that they eat.
              Austria will start eating by eating soup. Unlike France and Italy that starts from salads to appetizers first. Then eat mashed potato flour (dumpling) soup or pork. And bread, followed by Each locality has a variety of breads. Austrian popular main dish is meat boiled or roasted. Vegetables and fruits are peeled before eating. Food is known as pork fried (pork cutlet) was mixed with bread crumbs and fried beef Vienna (wiener schnitzel), known more. The large piece of beef, veal pounded thin, there is a cow hip lean boiled beef (tafelspitz) in Vienna is a thin slice of meat dishes bring to boil.
              The availability of Austria Be drinking tea or coffee with a cake. Coffee-known Viennese coffee or tea's financial strength in a coffee with milk in equal amounts. Among the most popular snacks eaten with coffee is. Jam filling, chocolate cake (sacher torte) which are available for the country. There are also cakes Joseph Fleury (soufflé) and bread-like alpine (salzburger nockerln).

BY SYSP 4/8"36

First Story : Austria 4 Ver.Thai

ระบบเศรษฐกิจของออสเตรีย

                เป็นแบบเสรีนิยมผสมสังคมนิยม รัฐบาลมีบทบาทในอุตสาหกรรมและวิสาหกิจ เช่น การไฟฟ้า ธนาคาร สาธารณูปโภคและอุตสาหกรรมหนัก ได้แก่ น้ำมัน เคมีภัณฑ์ รถยนต์ ออสเตรียเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากรายได้ประชากรเพิ่มมากขึ้นและเกิดจากกิจการของรัฐบาล

                อุตสาหกรรมหลักของออสเตรีย คือ เหมืองแร่และการท่องเที่ยว มีทรัพยากรน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ สังกะสี ตะกั่ว เหล็ก ขุดได้จากเทือกเขาแอลป์  อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น การถลุงเหล็ก ซึ่งก้าวหน้าที่สุดในยุโรป การท่องเที่ยว ใช้ประโยชน์จากดนตรีและมรดกทางวัฒนธรรม เป็นตัวดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวและยังพัฒนาทางด้านเกษตรกรรมและการเลี้ยงปศุสัตว์ ออสเตรียเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้มากมาย เพราะมีเครื่องมือที่ก้าวหน้าและมีจำนวนมาก ส่วนการวิจัย นักวิทยาศาสตร์ได้รับรางวัลโนเบลมากถึง 13 คน และเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ค.ศ. 1995และค.ศ. 1999 ได้เปลี่ยนสกุลเงินเป็นยูโร

สินค้านำเข้าสำคัญ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ กระจก แก้ว เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่ง ทองคำและเคมีภัณฑ์

สินค้าส่งออกสำคัญ  อัญมณี เครื่องประดับ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องสำอาง สบู่ ผลิตภัณฑ์รักษาผิว รถยนต์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ยาง

ความร่วมมือทางด้านการศึกษา

                        ไทยกับออสเตรียมีคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศิลปะระหว่างกัน โดยได้มีการดำเนินโครงการภายใต้กลไกนี้มาตั้งแต่ปี 2527 โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงให้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมฯ อย่างสม่ำเสมอ โครงการที่สำคัญภายใต้ความร่วมมือนี้ ได้แก่ โครงการแลกเปลี่ยนนักวิทยาศาสตร์ระหว่างมหาวิทยาลัยไทยกับออสเตรีย การให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาเอก รวมทั้ง ทุนฝึกอบรมและวิจัย

                           นอกจากนี้ ในระดับพหุภาคี ไทยและออสเตรียเป็นสมาชิกเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยในอาเซียนกับมหาวิทยาลัยในทวีปยุโรป (ASEAN-European Academic University Network - ASEA-UNINET) ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2537 สมาชิกจัดตั้งฝ่ายเอเชียได้แก่ ไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยมีไทยเป็นศูนย์กลางของเครือข่ายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากผลการดำเนินการในลักษณะเครือข่ายดังกล่าว ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนด้านเทคโนโลยี ทรัพยากร ความช่วยเหลือ และความร่วมมือทางวิชาการอย่างมีประสิทธิภาพและกว้างขวาง
                              ในปี 2547 ไทยและออสเตรียได้ฉลองครบรอบ 20 ปี แห่งความร่วมมือด้านการศึกษา โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯ เยือนออสเตรีย ระหว่างวันที่ 21 - 25 มีนาคม 2547 เพื่อทรงร่วมฉลองโอกาสดังกล่าว]

วัฒนธรรมของออสเตรีย

                ด้านการรับประทานอาหาร ออสเตรียได้รับอิทธิพลจากหลายประเทศและหลายชนเผ่า เช่น เยอรมัน ฮังการี อิตาลี สตูเนื้อวัว ไส้กรอกล้วนได้รับอิทธิพลจากเยอรมันและฮังการี อาหารออสเตรียมีความหลากหลายแตกต่างกันตามท้องถิ่นที่ตั้ง นอกจากนี้ ออสเตรียเป็นประเทศที่ไม่ติดทะเลและมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ชาวออสเตรียจึงใช้ปลาแม่น้ำและสัตว์ป่ามาทำอาหาร นิยมใช้มีดและส้อมสำหรับรับประทานอาหาร มารยาทขณะรับประทานอาหารที่สำคัญเมื่อต้องรับประทานร่วมกับหลายๆคนคือ หลังจากที่ทุกคนนั่งลงและก่อนจะเริ่มรับประทานอาหาร ต้องพูดว่า มาลไซท์ (Mahlzeit) ซึ่งแปลว่า จะรับประทานแล้ว
                การรับประทานอาหารของออสเตรียจะเริ่มจากการรับประทานซุป ซึ่งต่างจากฝรั่งเศสและอิตาลีที่เริ่มจากสลัดเพื่อเรียกน้ำย่อยก่อน จากนั้นนิยมรับประทานมันบดผสมแป้ง (dumpling) หรือซุปเนื้อหมู และตามด้วยขนมปัง ซึ่งแต่ละท้องถิ่นมีขนมปังหลากหลายประเภท อาหารจานหลักที่ชาวออสเตรียนิยมรับประทานคือ เนื้อสัตว์ โดยนำมาต้มหรือย่าง ส่วนผักและผลไม้มักปลอกเปลือกก่อนรับประทาน อาหารที่เป็นที่รู้จักกัน เช่น หมูชุบแป้งทอด (pork cutlet) ที่คลุกกับเกล็ดขนมปังและเนื้อทอดแบบเวียนนา (wiener schnitzel) ซึ่งขึ้นชื่อมาก โดยทำจากเนื้อสันลูกวัวชิ้นใหญ่ทุบจนบาง นอกจากนี้ เนื้อสันสะโพกวัวไม่ติดมันต้ม (tafelspitz) ที่เวียนนา เป็นอาหารพื้นเมืองที่นำเนื้อแล่บางๆมาต้ม

                ส่วนของว่างของออสเตรีย จะมีการดื่มชาหรือกาแฟพร้อมกับรับประทานเค้ก กาแฟที่รู้จักกันในชื่อ กาแฟเวียนนา หรือ กาแฟเมลังเงอ ที่ใส่นมในปริมาณเท่ากับกาแฟ ในบรรดาของว่างที่นิยมรับประทานพร้อมกาแฟคือ เค้กช็อกโกแลตไส้แยม (sacher torte) ซึ่งเป็นของว่างประจำประเทศด้วย นอกจากนี้ยังมีเค้กซุฟเฟลอ (soufflé) และ ขนมปังคล้ายเทือกเขาแอลป์ (salzburger nockerln)

BY SYSP 4/8"36

First Story : Austria 3 Ver.Eng

History of Austria 2

The war with Napoleon until the democratic game.

                               Emperor Francis 2 of the Roman Empire. Against the French Revolution The Napoleonic Wars Results of the Army was the collapse of the Roman Empire. After the meeting at Vienna France has returned back and territory borders clearly defined. Austria became weaker but From the war with Prussia. Emperor Francis Joseph of Austria and one has collapsed empire Publius of the democratic game. By the Empire of Austria - Hungary since 1867.

Austria after the country gained independence

                               1955 to the Cold War between the United States and the Soviet Union. Austria did not participate, but neutral conditional resignation from the rule of Habsburg Duisburg. Austria has become Republic of Austria again and joined the United Nations in December 1955, the Austrian Socialist Party in 1966 and the expulsion of Nazi economic controls. As a result, Austria Which had been defeated nations of World War 2 to the present form of government was changed on 26 October each year. National Day of Austria

System of Austrian political and social systems.


                   Austria was ruled by a constitutional democracy. After losing World War 1 began to shake. Since German intervention Escape The German defeat of World War 2 Austria declared itself neutral. Not under the shadow of the Soviet Union. A return to the Republic. The interior is divided into three parts: the judicial, legislative and executive. On the 1920 constitution, under the leadership of Prime Minister. The president elected directly by the people Hold office for six years, the prime minister from the party leader. Be elected by a majority vote. Administrative act of Parliament is composed of 183 members of the lower house are elected by the people every four years.
Council for politicians to control Responsible legislature, in drafting the new law, the Senate has 62 members who are elected by the provincial council. Is considering a bill again
                 Austria became a federal country Each state has councils and governors. But the decision must be approved by the government and the parliament before. Major political parties Social Democratic Party Austrian People's Party Freedom Party of Austria
                 Establishment of diplomatic relations with Thailand is July 2, 2496.

BY SYSP 4/8"36

First Story : Austria 3 Ver.Thai

ประวัติศาสตร์ออสเตรีย 2 

ยุคสงครามกับโปเลียนจนถึงยุคระบอบประชาธิปไตยคู่

                              

                          จักรพรรดิฟรานซิสที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมัน ต่อต้านการปฏิวัติฝรั่งเศส เกิดสงครามนโปเลียน ผลการะทบคือการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน ภายหลังการประชุมที่เวียนนา ฝรั่งเศสได้คืนอาณาเขตกลับคืนและกำหนดชายแดนอย่างชัดเจน แต่ออสเตรียเริ่มอ่อนแอ จากการทำสงครามกับปรัสเซีย จักรพรรดิฟรานซิสโจเซฟที่ 1 ได้ยุบจักรวรรดิออสเตรียและเบลี่ยนมาใช้ระบอบประชาธิปไตยคู่ โดยตั้งจักรวรรดิออสเตรีย – ฮังการี เมื่อปี ค.ศ. 1867

ประเทศออสเตรียหลังได้รับอิสรภาพ

ค.ศ. 1955 เข้าสู่ยุคสงครามเย็นระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียต ออสเตรียไม่ได้เข้าร่วม แต่เป็นกลาง ตามเงื่อนไขการลาออกจากตำแหน่งการปกครองของราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ออสเตรียจึงกลายเป็น สาธารณรัฐออสเตรียอีกครั้งและเข้าร่วมองค์การสหประชาชาติเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 1955 ปี ค.ศ. 1966 พรรคสังคมนิยมออสเตรีย ควบคุม ดูแลเศรษฐกิจและขับไล่นาซี จึงส่งผลให้ออสเตรีย ซึ่งเคยเป็นประเทศที่พ่ายแพ้สงครามโลกถึง 2 ครั้ง เปลี่ยนรูปแบบการปกครอง ในปัจจุบัน วันที่ 26 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันชาติของออสเตรีย

ระบบการเมืองและระบบสังคมของออสเตรีย

                ออสเตรียปกครองด้วยระบบประชาธิปไตยที่มีรัฐธรรมนูญ หลังจากแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 ก็เริ่มสั่งคลอน เนื่องจากเยอรมันหนีเข้ามาแทรกแซง ต่อมาเยอรมันพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ออสเตรียประกาศตัวเป็นกลาง ไม่อยู่ภายใต้เงาของสหภาพโซเวียต ทั้งยังกลับมาเป็นประเทศสาธารณรัฐ อำนาจภายในแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ตุลาการ นิติบัญญัติและบริหาร ร่างรัฐธรรมนูญเมื่อปี ค.ศ. 1920 ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ส่วนประธานาธิบดีเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน ดำรงตำแหน่งวาระละ 6 ปี นายกรัฐมนตรีจากหัวหน้าพรรค ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงข้างมาก ทำหน้าที่บริหารประเทศ ส่วนรัฐสภา จะประกอบไปด้วยสภาล่าง มีสมาชิก 183 คน ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนทุกๆ 4 ปี

สภาล่างจะควบคุมนักการเมือง รับผิดชอบสถาบันนิติบัญญัติในการร่างกฎหมายใหม่ ส่วนสภาสูง มีสมาชิก 62 คน เลือกตั้งจากสภาจังหวัด จะพิจารณากฎหมายอีกครั้ง

                ออสเตรียมีสถานะเป็นประเทศสหพันธรัฐ แต่ละรัฐจะมีสภาและผู้ว่าการรัฐ แต่การตัดสินใจต้องผ่านการเห็นชอบจากรัฐบาลและรัฐสภาก่อน พรรคการเมืองสำคัญได้แก่ พรรคสังคมประชาธิปไตย พรรคประชาชนออสเตรีย พรรคเสรีภาพแห่งออสเตรีย

                วันสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย คือ วันที่ 2 กรกฎาคม 2496

BY : SYSP 4/8"36

First Story : Austria 2 Ver.Eng

History of Austria 1

Austria prehistoric times to the House of Mubarak, Ben Berg.

             

               The early Christian era, Austria was the center for immigrants of many nations in Central Europe, including tribal Illyrian area (Croatia), the Hall Stadt and the Celts later Austria fell under Roman rule for centuries. 5, after the fall of the Roman The area was ruled by the Germans and tribal Tutoring tons. Later King Charlemagne's empire of Frank. European countries have merged together. 8th century Charlemagne the God. Has been appointed to the Western Roman Emperor. The outpost as it is. Ust Terry Rice that eastern kingdom. Austria is the source of a 976-year degree is the first Emperor of the Holy Roman cited. Ben Berg family bar Ust-terminal region for 270 years, including the rise of Vienna is the capital and built many churches that have architectural value.

Habsburg Duisburg.

             

               Emperor Rudolf 1 of Habsburg Duisburg. Reign as emperor in 1273 century 15 - 16, the governor of Austria. For political reasons, and marriage. Expanded the territory and influence, such as Japan, Chile, and Naples in Italy, Burgundy in France, Netherlands, Spain, Hungary, Bohemia, Austria, considered the most influential in Europe. Emperor Charles the 5th of the Roman Empire, or Charles 1 of Spain during the 16th century is considered the golden age of Habsburg Duisburg.

                               Early 18th century, Empress Maria Theresa, the daughter of Emperor Charles 6th Roman Empire with Emperor Francis of Austria first husband's parents. The financial reform religious education, agriculture rigorous military training and political policies.

BY : SYSP 4/8"36 

First Story : Austria 2 Ver.Thai

ประวัติศาสตร์ออสเตรีย 1

ออสเตรียสมัยก่อนประวัติศาสตร์ จนถึง ราชวงศ์บาเบนแบร์ก

                              
                สมัยก่อนคริสต์ศักราช ออสเตรีย เป็นศูนย์กลางการอพยพของหลายชนชาติในยุโรปกลาง ได้แก่ ชนเผ่าอิลลิเรีย (โครเอเชีย) ชาวฮอล์ชตัทท์และชาวเคลต์ ต่อมา ออสเตรียตกอยู่ภายใต้การปกครองของโรมันศตวรรษที่ 5 หลังโรมันล่มสลาย พื้นที่ถูกปกครองด้วยชาวเยอรมันและเผ่าติวตัน ต่อมาพระเจ้าชาร์เลอมาญแห่งอาณาจักรแฟรงก์ ได้รวมประเทศในยุโรปเข้าด้วยกัน คริสต์ศตวรรษที่ 8 พระเจ้าชาร์เลอมาญ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจักรพรรดิแห่งโรมันตะวันตก ซึ่งเมืองหน้าด่านในขณะนั้นคือ เอิสเทอร์ไรซ์ ที่แปลว่า อาณาจักรตะวันออก เป็นที่มาของชื่อประเทศออสเตรีย ปี ค.ศ. 976 จักรพรรดิออสโทที่ 1 แห่งอาณาจักโรมันอันศักดิ์สิทธ์ ตระกูลบาร์เบนแบร์ก ปกครองเอิสเทอร์ไรซ์ ร่วม 270 ปี รวมทั้งตั้งกรุงเวียนนาเป็นเมืองหลวงและสร้างโบสถ์วิหารที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมมากมาย

ราชวงศ์ฮับส์บูร์ก

                      จักรพรรดิรูดอล์ฟที่ 1 แห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ครองราชย์เป็นจักรพรรดิเมื่อปี ค.ศ. 1273 ในศตวรรษที่ 15 – 16 ผู้ปกครองของออสเตรีย ใช้เหตุผลทางการเมืองและการสมรส ขยายอาณาเขตและอิทธิพล เช่น ชิชิลีกับเนเปิลส์ ในอิตาลี เบอร์กันดี ในฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สเปน ฮังการี โบฮีเมีย ถือว่าออสเตรียมีอิทธิพลมากที่สุดในยุโรป สมัยจักรพรรดิชาลส์ที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมัน หรือ พระเจ้าชาลส์ที่ 1 แห่งสเปน ในช่วงศตวรรษที่ 16  ถือว่าเป็นยุคทองของราชวงศ์ฮับส์บูร์ก

                              ต้นศตวรรษที่ 18  จักรพรรดินี มาเรียเทเรซา พระธิดาในจักรพรรดิชาลส์ที่ 6 แห่งจักรวรรดิโรมัน ร่วมกับ จักรพรรดิฟรานซิสที่ 1 พระสวามี ปกครองออสเตรีย โดยปฏิรูปการเงิน การศึกษา ศาสนา เกษตรกรรม เข้มงวดการฝึกทหารและปรับปรุงนโยบายทางการเมือง

BY : SYSP 4/8"36